ขั้นตอนแรกในการจัดชั้นหนังสือให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพคือการจัดเรียงหนังสือตามหมวดหมู่ ซึ่งจะทำให้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่าย Nu-Deco Crafts แบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้านของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ แนะนำให้จัดกลุ่มหนังสือตามประเภท เช่น นิยาย หนังสือสารคดี หนังสือทำอาหาร หรือหนังสือเด็ก และวางแต่ละกลุ่มไว้บนชั้นต่างๆ ของชั้นหนังสืออย่างเป็นระเบียบ คุณยังสามารถติดป้ายชื่อบางถังเล็กหรือตะกร้าที่วางบนชั้นหนังสือ เพื่อเก็บหนังสือในหมวดหมู่ย่อยๆ (เช่น คู่มือท่องเที่ยว หรือหนังสือรวมบทกวี) ตัวอย่างเช่น ชั้นหนังสือ 5 ชั้น อาจจัดวางหนังสือทำอาหารไว้ที่ชั้นล่างสุด นิยายไว้ที่สองชั้นตรงกลาง และหนังสือสารคดีไว้ที่สองชั้นบนสุด การจัดหมวดหมู่นี้จะทำให้ชั้นหนังสือไม่ใช่เพียงแค่เฟอร์นิเจอร์สำหรับเก็บของ แต่ยังกลายเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้จริง ช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาหนังสือเฉพาะเรื่อง และทำให้ชั้นหนังสือดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

จัดวางหนังสือสลับกับของตกแต่งเพื่อเพิ่มสไตล์ให้กับชั้นหนังสือ
เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างรูปแบบและฟังก์ชัน ควรจัดวางหนังสือสลับกับของตกแต่งบนชั้นหนังสือ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ชั้นหนังสือดูเรียบง่ายเกินไป และเพิ่มบุคลิกภาพให้กับพื้นที่ Nu-Deco Crafts แนะนำให้วางของตกแต่งขนาดเล็ก (เช่น ต้นไม้อวบน้ำในกระถาง แจกันสไตล์วินเทจ หรือประติมากรรมขนาดเล็ก) คั่นระหว่างกลุ่มหนังสือ ตัวอย่างเช่น บนชั้นที่จัดวางหนังสือนิยาย คุณสามารถวางแจกันเซรามิกขนาดเล็กไว้ข้างกองหนังสือ หรือวางแคคตัสในกระถางบนชั้นที่มีหนังสือทำอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถใช้ที่คั่นหนังสือแบบตกแต่งเพื่อยึดหนังสือให้อยู่กับที่พร้อมเพิ่มดีไซน์ที่ทันสมัย เช่น ที่คั่นหนังสือไม้หรือโลหะที่มีรูปร่างโดดเด่น การผสมผสานระหว่างหนังสือและของตกแต่งนี้จะช่วยให้ชั้นหนังสือกลายเป็นจุดเด่นของห้อง แปลงเฟอร์นิเจอร์จัดเก็บธรรมดาให้กลายเป็นองค์ประกอบตกแต่งภายในบ้าน สิ่งสำคัญคือควรเลือกของตกแต่งที่มีขนาดสัมพันธ์กับชั้นหนังสือ หลีกเลี่ยงของชิ้นใหญ่เกินไปที่อาจบดบังหนังสือหรือทำให้ชั้นหนังสือดูรก

จัดเรียงหนังสือตามขนาดและสีเพื่อสร้างความกลมกลืนทางสายตาบนชั้นหนังสือ
การจัดเรียงหนังสือตามขนาดและสีช่วยสร้างความกลมกลืนทางสายตา ทำให้ตู้หนังสุดูทันสมัยมากขึ้น ขณะที่ยังคงความใช้งานได้ดี Nu-Deco Crafts อธิบายว่า การจัดกลุ่มหนังสือตามขนาด (หนังสือสูงรวมกัน หนังสือขนาดกลางและเล็กรวมกัน) จะช่วยป้องกันไม่ให้ตู้หนังสือดูยุ่งเหยิง สำหรับหนังสือที่มีความสูง ควรจัดวางไว้ที่ชั้นล่างหรือชั้นบนสุดของตู้ เพื่อเพิ่มความมั่นคง ส่วนหนังสือขนาดกลางและเล็กนั้น เหมาะกับการวางบนชั้นกลาง นอกจากนี้ คุณยังสามารถจัดเรียงหนังสือตามสีได้ เช่น รวมหนังสือที่มีสันสีน้ำเงินไว้ด้วยกัน จากนั้นสีเขียว แล้วตามด้วยสีแดง เพื่อสร้างเอฟเฟกต์แบบรุ้งหรือโทนสีเดียวกัน สำหรับสไตล์ที่เรียบหรูมากขึ้น อาจจัดเรียงหนังสือเป็นลำดับเฉดสีจากอ่อนไปเข้ม การจัดเรียงทั้งตามขนาดและสีนี้ ทำให้ตู้หนังสือดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ดึงดูดสายตา แต่ยังคงทำให้หาหนังสือได้ง่ายอยู่ วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งกับการออกแบบตู้หนังสือแบบเปิด ซึ่งมองเห็นด้านในได้ทั้งหมด

ใช้กล่องเก็บของและตะกร้าเพื่อซ่อนของที่รกภายในตู้หนังสือ
กล่องเก็บของและตะกร้าเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการซ่อนสิ่งของที่กระจัดกระจายในตู้หนังสือ ทำให้ตู้ยังคงใช้งานได้จริงพร้อมกับรักษาสไตล์ที่เรียบร้อย Nu-Deco Crafts ชี้ให้เห็นว่า สิ่งของเล็กๆ เช่น กระดาษแผ่นหลวม ที่คั่นหนังสือ หรือของเล่นขนาดเล็ก สามารถจัดเก็บไว้ในกล่องตกแต่งหรือตะกร้าสานบนตู้หนังสือ แทนการวางกระจัดกระจายตามชั้น เลือกกล่องหรือตะกร้าที่เข้ากับสไตล์ของตู้หนังสือ เช่น กล่องผ้าลินินสำหรับตู้หนังสือแบบทันสมัย หรือตะกร้าสานสำหรับตู้หนังสือแบบชนบท และวางไว้บนชั้นด้านล่างหรือด้านบนของตู้หนังสือ ตัวอย่างเช่น ตะกร้าสานที่วางบนชั้นล่างสุดของตู้หนังสือไม้สามารถใช้เก็บหนังสือภาพเด็กหรือนิตยสารสำรอง ในขณะที่กล่องผ้าลินินบนชั้นด้านบนสามารถใช้จัดเก็บเอกสารสำคัญ การใช้โซลูชันการจัดเก็บนี้จะช่วยให้พื้นผิวของตู้หนังสือเรียบร้อย ทำให้หนังสือและของตกแต่งชิ้นหลักโดดเด่นขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มพื้นผิวให้กับตู้หนังสือ ช่วยยกระดับรูปลักษณ์โดยรวม

เว้นพื้นที่ว่างเพื่อให้ตู้หนังสือมีความสมดุล
การเว้นพื้นที่ว่างบนชั้นวางหนังสือมีความสำคัญทั้งในด้านการใช้งานและรูปแบบ เพราะช่วยป้องกันไม่ให้แน่นเกินไป และทำให้ชั้นวางหนังสือดูโปร่งขึ้น Nu-Deco Crafts เน้นย้ำว่า การเติมหนังสือและของตกแต่งลงในทุกตารางนิ้วของชั้นวางอาจทำให้ดูอึดอัดและรกตา ทางที่ดีควรเว้นพื้นที่ว่างไว้ประมาณ 10-15% เช่น ในชั้นวางหนังสือ 5 ชั้น ควรเว้นช่องว่างเล็กๆ หนึ่งช่องไว้เปล่า หรือเว้นให้ชั้นบนสุดว่างครึ่งหนึ่ง พื้นที่ว่างนี้จะช่วยให้ชั้นวางหนังสือดูโล่งและน่านั่งอ่านหนังสือมากขึ้น อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้วางหนังสือเล่มใหม่หรือของตกแต่งชิ้นต่อไปได้ ตัวอย่างเช่น พื้นที่ว่างบนชั้นกลางสามารถใช้จัดแสดงของตกแต่งตามฤดูกาล (เช่น ฟักทองขนาดเล็กในฤดูใบไม้ร่วง หรือลูกแก้วหิมะในฤดูหนาว) การใช้พื้นที่อย่างสมดุลแบบนี้จะช่วยให้ชั้นวางหนังสือยังคงใช้งานได้จริง มีพื้นที่เพียงพอสำหรับหนังสือที่มีอยู่ ขณะเดียวกันก็ดูมีสไตล์ ไม่ดูรกหรือแน่นจนเกินไป